นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท เกษตรอินโน จำกัด

บริษัท เกษตรอินโน จำกัด ( “บริษัท”) ให้ความสำคัญในเรื่องการคุ้มครองและเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของท่านที่มีอยู่ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขเป็นคราว ๆ และกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่น ๆ (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ที่ใช้บังคับในประเทศไทย และมุ่งหมายที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยเพื่อการดำเนินกิจการของบริษัท บริษัทมีหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ความเป็นส่วนตัว หรือความปลอดภัยของข้อมูล ที่ใช้บังคับและมีผลบังคับอยู่ในประเทศไทย การจัดทำนโยบายฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของบริษัทที่จะดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของนโยบายและปฏิบัติหน้าที่ของตนตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าว

ขอบเขตของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของบริษัทในเรื่องความเป็นส่วนตัว วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย วิธีที่บริษัทมุ่งหมายจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลภายนอกที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลให้ทราบ การจัดเก็บรวบรวม และรักษาข้อมูลส่วนบุคคล วิธีที่ท่านสามารถเข้าถึงและขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บไว้ และวิธีที่ท่านอาจร้องเรียนหากเห็นว่าบริษัทกระทำขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ

กรุณาอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยละเอียด

บทนิยาม

บริษัทในเครือ หมายถึง บริษัท สยามคูโบต้า ลีสซิ่ง จำกัด, บริษัท คูโบต้า รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ เอเชีย จำกัด, บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ในฐานะผู้ถือหุ้น, บริษัท คูโบต้าคอร์ปอเรชั่น (ญี่ปุ่น) ในฐานะผู้ถือหุ้น, บริษัท ปูนซิเมนต์-ไทย จำกัด และ บริษัทในเครือในกลุ่มของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (ในฐานะผู้ถือหุ้น) ทั้งนี้ รวมถึงผู้กระทำการแทนของบริษัทดังกล่าวด้วย

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นหรือเชื่อมโยงไปยังบุคคลนั้นได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม หากสามารถแยกความแตกต่างหรือสามารถสืบค้นกลับไปที่ตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าโดยลำพังหรือโดยรวมเข้ากับข้อมูลอื่น ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 26 พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการแก้ไขเป็นคราว ๆ และกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่น รวมถึงข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน

การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายฉบับนี้ใช้กับ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ที่มีการเก็บรวบรวมจากและเกี่ยวข้องกับบุคคลแต่ละรายดังต่อไปนี้ ได้แก่ ลูกค้า ผู้ที่อาจเป็นลูกค้า ผู้ที่เคยเป็นลูกค้า บุคคลที่กระทำการแทนลูกค้า และบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว ช่องทางที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเอกสาร แต่รวมถึงเว็บไซต์ของบริษัท หรือแอปพลิเคชันใด ๆ สำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่บริษัทจัดให้มีขึ้น และช่องทางของบุคคลภายนอกที่ท่านทำการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้

เว้นแต่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะนโยบายฉบับนี้ไม่ได้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาหรือข้อตกลงฉบับใด ๆ

บริษัทอาจทบทวนและปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้เป็นครั้งคราวไป เช่น เพื่อให้มีความสอดคล้องเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย รวมถึงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเทคโนโลยีของบริษัท เป็นต้น ท่านควรตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทเป็นระยะ ๆ เพื่อที่ท่านจะได้ทราบหากมีการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ เมื่อมีการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบโดยการแสดงข้อความว่า “ปรับปรุงใหม่” ไว้ที่ลิงก์ของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของบริษัทเป็นเวลา 30 วัน และ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทอาจขอความยินยอมในการเปลี่ยนแปลงจากท่านล่วงหน้า

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้างที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่าน

    บริษัทเก็บรวบรวม “ข้อมูลส่วนบุคคล” เท่าที่จำเป็นตามสมควรสำหรับการดำเนินกิจกรรมของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลต่อไปนี้

    • ข้อมูลเกี่ยวกับ

      • ลูกค้าและผู้ที่อาจเป็นลูกค้า บุคคลเป้าหมาย ซึ่งรวมถึงลูกค้าของผู้ให้บริการสถานที่จัดงานที่บริษัทร่วมงานด้วย และรวมถึงลูกค้า หรือบุคคลเป้าหมายของผู้แทนจำหน่ายของบริษัทในเครือ
      • ผู้เข้าร่วมงาน ผู้เยี่ยมชม และผู้จัดแสดงผลงานของลูกค้า ตลอดจนบุคคลอื่น ๆ ที่ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงาน งานจัดแสดงเพื่อการส่งเสริมการขายสินค้า (งานอีเวนต์) นิทรรศการ หรือกิจกรรมอื่นๆ หรือลงทะเบียนบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่จัดทำหรือจัดการโดยบริษัทใด ๆ ในบริษัทในเครือ หรือบริษัทใด ๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลในนามของบริษัท (เรียกรวมกันว่า “ ลูกค้าและผู้เยี่ยมชม” หรือ “ ท่าน”) และ
    • ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ พนักงาน และผู้แทนอื่น ๆ ของลูกค้าที่บริษัทติดต่อด้วย (เรียกรวมกันว่า “ ผู้แทน”)

    ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจกรรมที่มีกับบริษัท และสถานที่และวิธีการที่เก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้

    • ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ที่อยู่เพื่อจัดส่งไปรษณีย์ และรายละเอียดข้อมูลติดต่ออื่น ๆ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ อาชีพ รูปถ่าย สถานภาพทางการสมรส และข้อมูลเกี่ยวกับผู้อยู่ในอุปการะของท่าน และเสียงที่บันทึกไว้ เป็นต้น
    • รายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อ ทำคำสั่งซื้อสินค้า หรือใช้บริการของบริษัทโดยท่าน
    • ข้อมูลการชำระเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร รายละเอียดบัญชีธนาคาร การเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เลขที่บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต รวมถึงชื่อผู้ถือบัตร (ถ้ามี) เป็นต้น
    • กรณีที่ท่านใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทที่มีไว้สำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ใด ๆ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิค เช่น ที่อยู่ไอพี คุกกี้ เป็นต้น และสำหรับแอปพลิเคชัน บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลสถานที่และอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่ท่านใช้
    • ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกที่ท่านให้แก่บริษัทที่เกี่ยวกับการซื้อ หรือ การใช้สินค้าและบริการของบริษัท หรือเพื่อการแนะนำลูกค้า

    ข้อมูลบางอย่างที่บริษัทเก็บรวบรวมอาจเป็น “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” บริษัทมุ่งหมายที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจากท่านเฉพาะในกรณีที่ท่านให้ความยินยอมไว้โดยชัดแจ้งและเท่าที่จำเป็นต้องใช้ตามสมควรในการดำเนินกิจการของบริษัท หรือในกรณีที่กฎหมาย หรือศาล หรือหน่วยงานของรัฐมีคำสั่งให้เก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือในกรณีที่ท่านได้จงใจเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อสาธารณชนแล้วเท่านั้น และมุ่งหมายที่จะแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเฉพาะในกรณีที่บริษัทเห็นว่าจำเป็นต้องมีการประมวลผลข้อมูลนั้นเท่านั้น เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

    • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
    • เพื่อการดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการคุ้มครองที่เหมาะสมของมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงานให้แก่สมาชิก
    • เพราะเป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน
    • เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
    • เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ เช่น การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญอื่น ๆ เป็นต้น
  2. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

    โดยทั่วไป บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง เช่น เมื่อท่านส่งอีเมลหรือจดหมายถึงบริษัท โทรศัพท์ถึงบริษัท หรือเข้ามาพบ ติดต่อบริษัท ขอใบเสนอราคาหรือขอข้อมูล ให้ฟีดแบคทางออนไลน์ หรือลงทะเบียนหรือให้ข้อมูลติดต่อสำหรับงานอีเวนต์ งาน นิทรรศการ การส่งเสริมการขาย หรือกิจกรรมอื่น ๆ ผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่บริษัทหรือบริษัทใด ๆ ที่เกี่ยวข้องจัดทำหรือจัดให้มีขึ้น (เรียกรวมกันว่า “ เว็บไซต์”) เป็นต้น

    บริษัทไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ยกเว้นในกรณีที่มีการให้ข้อมูลเอง หรือข้อมูลทางเทคนิค ตามที่กล่าวไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

    ในบางครั้งอาจมีบุคคลอื่นให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท โดยท่านอาจมีความเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวโดยตรงหรือไม่ก็ได้ เช่น บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก

    • นายจ้างของท่าน หากบุคคลดังกล่าวให้ข้อมูลติดต่อของท่าน
    • โรงแรมหรือผู้ให้บริการสถานที่จัดงานอื่น ๆ หรือผู้แทนของบุคคลดังกล่าว
    • บริษัทในเครือ หรือผู้แทนจำหน่าย
    • บุคคลแวดล้อม หรือ บุคคลที่ใกล้ชิดกับท่าน เช่น ญาติ เพื่อนบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นต้น
    • หน่วยงาน หรือองค์กรที่ท่านเป็นสมาชิก
    • ผู้รับจ้าง ผู้ขายสินค้าหรือให้บริการ หรือซัพพลายเออร์
    • ผู้แทนของท่าน
    • แหล่งข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะทั้งของภาคเอกชน สมาคมการค้าใด ๆ และ/หรือหน่วยงานของรัฐ เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือ สื่อสังคมออนไลน์ (online social media) เช่น Facebook เป็นต้น หรือ
    • รายการข้อมูลติดต่อสำหรับการส่งจดหมายและการทำการตลาดที่เปิดเผยต่อสาธารณะและจัดทำขึ้นเพื่อการค้า
  3. บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

    บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้บริษัทสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ เช่น

    • เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร เพื่อการทำความรู้จักลูกค้า ยืนยันตัวตน ยืนยันความถูกต้องของข้อมูลใด ๆ ที่ท่านให้กับบริษัท
    • เพื่อเสนอ ขาย จัดให้ บริหารจัดการ ดำเนินการ ปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการ และจัดการเกี่ยวกับสินค้าและบริการของบริษัทให้แก่ท่าน เพื่อใช้ในการติดต่อเพื่อตอบรับคำสั่งซื้อของท่าน และจัดส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อของท่าน หรือให้บริการแก่ท่าน
    • เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเพื่อการเข้าทำสัญญาระหว่างท่านและบริษัท เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการ จัดการ ทำให้แล้วเสร็จ และ ทำให้เกิดผลซึ่งข้อร้องขอ หรือ ธุรกรรมที่ระบุในเอกสารนี้ หรือ เอกสารอื่นใดที่ท่านอาจส่งให้กับบริษัทเป็นครั้งคราว เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงใด ๆ ที่อาจมีต่อการประกอบธุรกิจของบริษัท การเก็บเงินค้างชำระจากท่าน และการปรับปรุงแก้ไข ยกเลิกสัญญา การติดตามทวงถามหนี้ การบังคับคดีอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของบริษัท
    • เพื่อจัดให้บริการและ/หรือสินค้าของบริษัทแก่ลูกค้า รวมถึงเพื่อการให้บริการรับประกันสินค้า ซ่อมแซมสินค้า ให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าและบริการของบริษัท ให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือการเกษตร การเปิดให้บริการระบบ GPS (หากมี)
    • เพื่อปรับปรุงและพัฒนาบริการและ/หรือสินค้าของตน
    • เพื่อให้บริการสนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือในการจัดการบริการและ/หรือสินค้าของตน เมื่อท่านมีข้อสอบถาม
    • เพื่อรับบริการและ/หรือสินค้า การใช้สิทธิใด ๆ ภายใต้สัญญาที่ท่านมีต่อบริษัท หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับบริการและ/หรือสินค้า
    • การติดต่อสื่อสารกับท่าน ซึ่งรวมถึงการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการและข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบัญชีใด ๆ ที่ท่านอาจมีกับบริษัท การให้การสนับสนุนทางเทคนิคเกี่ยวกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัท หรือการสื่อสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่จะมีขึ้นต่อนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ในอนาคต
    • เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชำระเงิน การจัดทำใบแจ้งหนี้ การเรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน การยืนยันคำสั่งซื้อรวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี และการสอบบัญชีของบริษัท
    • เพื่อการตรวจสอบ ป้องกัน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีการฉ้อโกงหลอกลวง กรณีการฟอกเงิน กรณีที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ กรณีที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันสมควรเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือกรณีที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
    • เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอื่นที่บริษัทเห็นว่าลูกค้าและผู้เยี่ยมชม หรือผู้แทนอาจสนใจ (ซึ่งลูกค้าและผู้เยี่ยมชม หรือผู้แทนสามารถแจ้งบริษัทได้ทุกเมื่อหากไม่ต้องการได้รับข้อมูลประเภทนี้)
    • เพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่บริษัท
    • เพื่อช่วยบริษัทในการประกอบธุรกิจของตน เช่น เพื่อใช้ในการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ การส่งเสริมการขาย หรือการติดต่อสื่อสารอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงสินค้าหรือบริการ เพื่อจัดการฝึกอบรม เพื่อจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการตลาด หรือทำการวิเคราะห์เชิงสถิติหรือการวิเคราะห์ตลาด และทำการสำรวจผู้บริโภค เพื่อจัดการระบบสารสนเทศ ทดสอบ พัฒนา และคงให้มีระบบและมาตรการควบคุมเพื่อรักษาความปลอดภัย เป็นต้น
    • เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กร และการทำธุรกรรมขององค์กร ซึ่งเป็นผลทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนหรือเปิดเผย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขายธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายธุรกิจขององค์กร
    • เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
    • เพื่อการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดภายใต้นโยบายภายในของบริษัทที่ยึดถือปฏิบัติ
    • เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ บันทึก สำรอง หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
    • เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือนโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกำหนดขึ้นโดยหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลธุรกิจของบริษัท ไม่ว่าหน่วยงานใดก็ตาม
    • เพื่อการให้ความช่วยเหลือเพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ และการดำเนินการตามหน้าที่ในการรายงาน และ ข้อกำหนดต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด หรือ ตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ
    • เพื่อวัตถุประสงค์ในด้านคุณภาพและการฝึกอบรม เมื่อมีการบันทึกการติดต่อสื่อสารของเรา
    • เพื่อการดำเนินการด้านการจัดการทั่วไปอันเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ข้างต้น และ
    • เพื่อการดำเนินการอื่น ๆ ที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใด ๆ ข้างต้น

    หากบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำหรับการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกจากที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทมุ่งหมายที่จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์นั้นในขณะที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น ๆ ทั้งนี้ตามที่ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

    สำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อ้างอิงฐานโดยชอบด้วยกฎหมายอื่นนอกจากความยินยอม เช่น การดำเนินการเพื่อเข้าทำสัญญา การปฏิบัติตามสัญญา การดำเนินการอื่นที่เกี่ยวกับการให้บริการของบริษัท นอกจากการดำเนินการทางการตลาด และการทำการตลาดแบบตรง เป็นต้น หากท่านไม่ยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการข้างต้น บริษัทจะไม่สามารถให้บริการใด ๆ แก่ท่านได้ เช่น บริษัทจะไม่สามารถให้บริการหลังการขาย หรือให้คำปรึกษาใด ๆ เกี่ยวกับสินค้า หรือการเกษตรแก่ท่านได้ เป็นต้น

    การทำการตลาดแบบตรง

    นอกจากนี้ บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ข้อมูลแก่ท่านเกี่ยวกับงานอีเวนต์ การส่งเสริมการขาย สินค้า หรือบริการอื่น ๆ ที่บริษัทเชื่อว่าท่านจะสนใจ ท่านสามารถแจ้งให้บริษัททราบได้ทุกเมื่อหากท่านไม่ต้องการได้รับการติดต่อสื่อสารประเภทนี้ โดยติดต่อบริษัทตามข้อมูลติดต่อที่ระบุไว้ด้านล่างของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ คำขอของท่านอาจก่อให้เกิดผลบางประการ ซึ่งบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบเมื่อบริษัทได้รับคำขอจากท่าน เช่น หลังจากที่บริษัทได้ดำเนินการตามคำขอของท่านแล้ว บริษัทอาจไม่สามารถจัดบริการบางรายการที่ท่านขอรับให้แก่ท่านได้อีกต่อไป เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทอาจยังคงติดต่อท่านอยู่ต่อไปเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่บริษัทหรือบริษัทในเครือจัดให้แก่ท่าน หรือตามที่กล่าวไว้ในส่วนอื่นของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

  4. บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อผู้อื่นในกรณีใดและอย่างไร

    บริษัทไม่ได้ขายข้อมูลส่วนบุคคล แต่บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกในลักษณะนิรนาม หรือในลักษณะข้อมูลรวมที่ไม่สามารถระบุหรือทราบตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

    บริษัทมุ่งหมายให้การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจำกัดอยู่เพียงเพื่อวัตถุประสงค์แต่เดิมที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพื่อการดำเนินการทางธุรกิจและการบริหารจัดการของบริษัท รวมถึงกรณีที่จำเป็นต้องเปิดเผยเพื่อจัดให้สินค้าหรือบริการตามที่ท่านขอรับให้แก่ท่าน เพื่อช่วยเหลือบริษัทในการดำเนินกิจการของบริษัท หรือเพื่อเหตุผลด้านการรักษาความปลอดภัย ดังรายละเอียดข้างต้น

    นอกจากนี้ ในบางครั้งบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานภายนอกบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกับที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ในกรณีที่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลนั้นเพื่อจัดให้สินค้า บริการ หรือกิจกรรมให้แก่ท่านตามที่ท่านขอ เพื่อช่วยเหลือบริษัทในการดำเนินกิจการของบริษัท หรือเพื่อเหตุผลด้านการรักษาความปลอดภัยหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เป็นต้น

    บริษัทอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลต่อไปนี้

    • ผู้แทนจำหน่าย
    • บริษัทในเครือ ไม่ว่าจะอยู่ ณ ประเทศใดทั่วโลก
    • ผู้จัดงาน ผู้ประชาสัมพันธ์ และผู้สนับสนุน งานอีเวนต์หรือนิทรรศการ
    • โรงแรมหรือผู้ให้บริการสถานที่จัดงานอื่น ๆ และผู้แทนของบุคคลดังกล่าว ที่เกี่ยวข้องกับงานอีเวนต์ หรือนิทรรศการ
    • ลูกค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับงานอีเวนต์ หรือนิทรรศการ
    • ผู้รับจ้างช่วง ผู้ให้บริการ และซัพพลายเออร์ และตัวแทนลักษณะอื่น ๆ ที่ดำเนินการในนามของบริษัท หรือถูกว่าจ้างโดยบริษัท เช่น หน่วยงานที่จัดให้สินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับงานอีเวนต์ บริการด้านการธนาคารหรือการเงิน บริการพื้นที่บนอินเทอร์เน็ต แอปพลิเคชันระบบคลาวด์หรือเครือข่ายข้อมูล บริการลงทะเบียนเข้าร่วมงานอีเวนต์ บริการการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนอกประเทศ บริการรักษาความปลอดภัย บริการสอบบัญชี บริการด้านกฎหมาย บริการประกันภัย บริการวิจัยตลาด และบริการจัดการอีเมลหรือไปรษณีย์ และผู้แทนและตัวแทนที่ขายหรือประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการในนามของบริษัท บริการจัดการประมูลสินค้า เป็นต้น ทั้งนี้ หน่วยงานเหล่านี้บางรายอาจไม่อยู่ในประเทศไทย และในประเทศนั้นอาจไม่มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับในประเทศ หรือมีแต่ไม่เพียงพอหรือได้มาตรฐานเทียบเท่ากับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย
    • ธนาคารหรือสถาบันการเงิน แล้วแต่กรณี
    • บุคคลใดก็ตามที่ท่านให้ความยินยอมในการรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    • ผู้ที่ซื้อหรือขาย หรือจะซื้อหรือจะขาย หากบริษัทขายธุรกิจหรือกิจการของบริษัทบางส่วน ควบรวมกิจการ หรือเข้าซื้อธุรกิจหรือบริษัทอื่น และ
    • บุคคลใดหรือหน่วยงานของรัฐตามกฎหมาย ตามคำสั่งศาล หรือหน่วยงานอื่นใดที่มีอำนาจกำกับดูแลการประกอบธุรกิจของบริษัทตามกฎหมาย ซึ่งกำหนดให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือหน่วยงาน ของรัฐนั้นให้ทราบ

    บริษัท อาจว่าจ้างบุคคลภายนอกให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเพื่อพัฒนา หรือบำรุงรักษาระบบของบริษัท ในกรณีเช่นว่านี้ บริษัทจะควบคุมและวางมาตรการเพื่อให้บุคคลภายนอกนั้นทำการเก็บรักษา ใช้เฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ดำเนินการเพื่อให้บุคคลภายนอกปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนกฎหมายว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด

  5. การเก็บรักษาข้อมูล

    บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์กับท่าน เช่น ตลอดระยะเวลาที่มีการซื้อขายสินค้าของบริษัท และเมื่อท่านยุติความสัมพันธ์กับบริษัทแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลเกี่ยวกับท่าน ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้ต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น แต่ทั้งนี้บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปไม่เกินระยะเวลา 10 ปี นับแต่ความสัมพันธ์สิ้นสุดลง เว้นแต่ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปนานกว่า 10 ปี และตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้

  6. เว็บไซต์ของบริษัท

    เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทในหน้าที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ของบริษัท จะบันทึกการเยี่ยมชมนั้นและเก็บข้อมูลต่อไปนี้

    • ที่อยู่ไอพีของท่าน (ซึ่งหากอธิบายโดยใช้คำทั่วไป หมายถึงข้อมูลเฉพาะที่กำหนดขึ้นสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านเมื่อมีการเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต)
    • คำค้นหาที่ใช้
    • ระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ที่ท่านกำลังใช้ และ
    • ข้อมูลที่ท่านดาวน์โหลด (เช่น หน้าเว็บ หรือไฟล์เอกสาร หรือซอฟต์แวร์อื่น เป็นต้น) และเวลาที่ทำการดาวน์โหลด

    ข้อมูลข้างต้นนี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านสถิติเท่านั้น เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถทราบได้ว่าส่วนใดของเว็บไซต์ของบริษัทที่ผู้ใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเยี่ยมชมมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้บริษัททราบได้ว่าจะปรับปรุงบริการของบริษัทได้อย่างไร

    หากท่านติดต่อบริษัท ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ใด ๆ ของบริษัท หรืออีเมลถึงบริษัท บริษัทมุ่งหมายจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดำเนินการตามที่ท่านขอหรือเพื่อตอบข้อสอบถามของท่านเท่านั้น นอกจากนี้ หากท่านให้ความยินยอมตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด บริษัทอาจเพิ่มที่อยู่อีเมลของท่านไว้ในรายการข้อมูลติดต่อสำหรับการส่งจดหมายของบริษัท อย่างไรก็ดี ท่านสามารถแจ้งให้บริษัททราบได้หากท่านไม่ต้องการรับข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท งานอีเวนต์ การส่งเสริมการขาย สินค้า และ/หรือบริการของบริษัทอีก

    สำหรับในส่วนของเว็บไซต์ที่จำกัดการเข้าถึง บริษัทจะใช้ “คุกกี้” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จดจำอุปกรณ์ของท่านและเก็บข้อมูลบางประเภทในระหว่างที่มีการเยี่ยมชมเว็บไซต์จากอุปกรณ์เครื่องเดิม เว็บไซต์ของบริษัทใช้คุกกี้เพื่อให้สามารถตอบสนองท่านได้ดีขึ้นเมื่อท่านเข้าใช้บริการบางส่วนของเว็บไซต์ ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมและวิเคราะห์จะรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์และการเชื่อมต่อของท่าน เช่น ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ที่ใช้ ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินของเบราว์เซอร์ที่ใช้ ระบบปฏิบัติการ และภาษาที่เลือกใช้ เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ และไม่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของผู้ใช้งานรายใด ๆ ได้ ท่านสามารถปรับการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อให้ไม่ให้ตรวจหาคุกกี้หรือเพื่อปิดการใช้งานคุกกี้ได้หากท่านต้องการ


    สิ่งสำคัญคือท่านต้องป้องกันไม่ให้ผู้อื่นทราบรหัสผ่านและเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต ท่านควรออกจากระบบทุกครั้งหากท่านเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานร่วมกับผู้อื่น


    เว็บไซต์อื่นๆ

    เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่ดำเนินการโดยบุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งในกรณีดังกล่าว บริษัทไม่ใช่ผู้ควบคุมเว็บไซต์เหล่านั้น และไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของผู้ดำเนินการเว็บไซต์เหล่านั้นในเรื่องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล


    นอกจากนี้ บริษัทอาจจัดการหรือจัดให้มีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่เพื่อบุคคลภายนอก รวมถึงการจัดการหรือจัดให้มีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่เพื่อลูกค้าสำหรับนิทรรศการหรืองานอีเวนต์ของลูกค้า เว็บไซต์เหล่านี้เป็นของลูกค้าของบริษัทหรือบุคคลภายนอกรายอื่น และแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ดังกล่าวจัดทำสำหรับนิทรรศการของลูกค้าหรือบุคคลอื่นเท่านั้น และบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของลูกค้าและบุคคลอื่นดังกล่าวในเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล


    ก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนเว็บไซต์ที่มีลิงก์ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของบริษัท หรือเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ใด ๆ ที่จัดการหรือจัดให้มีโดยบริษัทเพื่อบุคคลภายนอก บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนข้อกำหนดและเงื่อนไขในการใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันนั้นก่อน


  7. ผู้เยาว์

    บริษัทไม่อาจทราบอายุของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทได้ หากท่านเป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองของผู้เยาว์ที่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนแก่บริษัทโดยที่ท่านไม่ทราบและไม่ได้ให้ความยินยอม ท่านอาจติดต่อบริษัทและขอให้บริษัทลบข้อมูลนั้นได้ ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ทั้งนี้ ผู้เยาว์ หมายถึง บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์


  8. สิทธิของท่าน

    1. ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่กฎหมายจะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
    2. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความครอบครอง หรือการควบคุมของบริษัท หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้
    3. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ โดยขึ้นอยู่กับข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
    4. ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัท ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามคำขอตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
    5. ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
    6. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเท่าที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
    7. ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  9. ติดต่อเรา

    หากท่านมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือประสงค์ที่จะใช้สิทธิเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ E-mail : [email protected] หรือ Call Center : 081-005-4241